ของคุณไม่ว่าจะเป็นรถเก่าหรือรถยนต์ที่เพิ่งถอยมาใหม่ ๆ ก็ตาม การดูแลรถก็เป็นเรื่องจำเป็นอยู่เสมอ เพราะการที่รถมีสภาพที่ดี มีสมรรถนะที่สามารถขับขี่ได้เต็มประสิทธิภาพ รถยนต์ย่อมทำให้เราขับขี่ได้ปลอดภัยและไม่ต้องกังวลใจ สภาพรถดีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุจนต้องมีการเคลมประกันรถก็น้อยลง ครั้งนี้เราจึงมีเทคนิคดูแลรถ มาแชร์กับทุก ๆ คน
รถสะอาดอยู่เสมอก็เป็นเรื่องดีนะ
การที่รถยนต์ของเราแลดูสะอาดตา นอกจากจะทำให้รถดูมีความสวยงามอยู่ตลอด และเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานแล้ว ยังเป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนถึงความใส่ใจของเจ้าของรถด้วย การเช็ดล้างทำความสะอาดรถจะช่วยให้เราได้มีโอกาสสำรวจส่วนต่าง ๆ ของรถไปในตัว ซึ่งถ้ามีปัญหาตรงจุดไหนเราก็จะรู้ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ทำให้เราปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น รู้แบบนี้แล้ว ลุกขึ้นมาทำความสะอาดรถกันเถอะ
ลมยางเป็นหนึ่งเรื่องที่ต้องเช็คเสมอ
ยางรถเป็นส่วนที่ต้องเกาะถนน เราจึงต้องหมั่นดูแลอยู่เสมอ สิ่งที่ต้องใส่ใจอย่างแรกเลยก็คือ เรื่องของลมยาง เพราะลมยางที่อ่อนเกินไปไม่เพียงทำให้กินน้ำมันเท่านั้น ยังมีส่วนทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุด้วย ก่อนเดินทางทุกครั้งจึงควรมีการตรวจเช็คลมยางอยู่เสมอ
ระบบไฟส่องสว่าง อีกหนึ่งจุดที่อย่ามองข้าม
หลาย ๆ ครั้งที่อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นก็เพราะระบบไฟส่องสว่างที่ไม่เพียงพอ โชคดีก็เสียหายแค่รถ จัดการเคลมประกันรถได้ แต่ถ้าโชคร้ายก็ถึงขั้นบาดเจ็บหรือเสียชีวิตกันได้เลย ใครที่ขับขี่เวลากลางคืนบ่อย ๆ ต้องคอยเช็คไฟส่องสว่างของรถให้ดี ถ้าต้องขับออกต่างจังหวัดทางไกลในยามค่ำคืนยิ่งต้องดูให้ดี เช็คไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้ายทั้งหมด การเดินทางจะได้ปลอดภัยมากขึ้น
ยางอะไหล่อย่าลืมสำรวจให้พร้อมใช้
จุดหนึ่งที่หลายคนมักมองข้ามและละเลยไปก็คือ ยางอะไหล่ ไม่ว่าจะเดินทางใกล้ไกล ยางอะไหล่ก็ยังถือว่าจำเป็นเสมอ เพราะบางทีขับใกล้ ๆ ก็สามารถเกิดยางแตกได้ หากเตรียมยางอะไหล่ไว้ให้พร้อมก็จะสามารถเปลี่ยนได้ทันทีและเดินทางต่อไปได้ จึงต้องหมั่นคอยตรวจสภาพยางอะไหล่ให้พร้อมใช้ไว้ด้วย
น้ำมันเครื่องจำเป็นต้องถ่ายตามระยะ
วิธีการหนึ่งที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์ของรถยนต์ และเป็นการถนอมรถ ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นก็คือ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนด ส่วนนี้จึงเป็นอีกจุดที่คุณจะต้องควรตรวจเช็คอยู่เสมอด้วย
ขับกลางฝนเลี่ยงเปิดไฟฉุกเฉิน
หลายคนอาจสับสนเข้าใจผิดว่า การขับรถในช่วงฝนตกหนักนั้นต้องเปิดไฟส่องสว่างไว้หลายจุด อย่างไฟฉุกเฉินก็ควรเปิดไว้ด้วยเพื่อให้รถคันอื่นมองเห็นง่ายขึ้น แท้จริงความเข้าใจนี้ไม่ถูกต้องนัก ไฟฉุกเฉินไม่ควรเปิดตอนเราขับกลางฝน เพราะผู้ขับขี่อื่น ๆ มักจะเข้าใจผิดทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นจนต้องมีการเรียกประกันรถมาเคลียร์ขณะฝนตกอยู่หลายครั้ง
สิ่งที่ถูกต้องก็คือ ปิดไฟเลี้ยวและเปิดไฟหน้ารถ หรือเปิดไฟตัดหมอกทั้งส่วนหน้าและหลังรถแทน เพื่อทัศนวิสัยในการขับขี่ของเรา และรถคันอื่นจะได้รู้ตำแหน่งของเรานั่นเอง
อย่าละเลยที่จะสังเกตไฟเตือนที่หน้าปัด
หลายคนพอขึ้นรถมาก็สตาร์ทรถและออกตัวเลย บางคนอาจเห็นสัญญาณไฟเตือนที่หน้าปัด แต่ไม่สนใจเพราะกำลังรีบ บางคนไม่ทันสังเกตเลยด้วยซ้ำ ตรงนี้ขอแนะนำให้ใส่ใจไฟเตือนที่หน้าปัดกันสักเล็กน้อย เพราะไฟเตือนนั้นช่วยให้เรารู้ว่า รถยนต์เรากำลังมีอะไรผิดปกติ ต้องรีบแก้ไขดูแล เอาเข้าอู่ ซึ่งนั่นจะช่วยทำให้เราขับขี่ได้ปลอดภัยมากขึ้นนั่นเอง
เหล่านี้คือเทคนิคดูแลรถให้ขับขี่ได้มั่นใจ ถ้าคุณทำได้อย่างสม่ำเสมอบวกกับทำประกันรถเอาไว้ด้วย รับรองว่าทุกทริปการเดินทางปลอดภัยหมดห่วงแน่นอน